การเล่นฟุตบอล ของ มิก้า ชูนวลศรี

มิก้าเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เมื่อย้ายจากเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปอยู่ที่เวลส์ [5]โดยเล่นอยู่ในทีมชุดเยาวชนของสโมสรคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ในปี 2005 และอยู่ในทีมชุดเยาวชนของสโมสรนาน 2 ปี ก่อนจะถูกคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ปล่อยตัวออกจากทีมชุดเยาวชนในเดือนสิงหาคม ปี 2007

เบรนทิเรียน แอธเลติก

หลังถูกคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ปล่อยตัว มิก้า ชูนวลศรี ก็ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมทีม เบรนทิเรียน แอธเลติก ในระดับเวลช์ลีก ดิวิชัน 1 ฤดูกาล 2007–2008 โดยลงเล่นเป็นกองกลาง และสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับ 5 ในลีก

นีธ แอธเลติก และ อะฟาน ลิโด

ฤดูกาลต่อมา เดือนกรกฎาคม ปี 2008 มิก้า ย้ายไปอยู่กับสโมสรนีธ แอธเลติก ในระดับเวลช์พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของประเทศเวลส์ โดยลงเล่นภายใต้การคุมทีมของแอนดี ดายเออร์ ในช่วงสั้นๆ ก่อนที่ในเดือน กันยายน ปี 2008 เขาจะย้ายมาเล่นให้กับสโมสร อะฟาน ลิโด ทีมในเวลช์ลีก ดิวิชัน 1 [6] โดยมิก้า ยิงประตูแรกให้อะฟาน ลิโด ได้เมื่อวันที่ 14 มกราคม ปี 2009 ในเวลช์ลีก ดิวิชัน 1 ฤดูกาล 2008–2009 นัดที่เปิดบ้านเอาชนะสโมสรฟุตบอลทอน เพนทรี ไปได้ 2–0 ที่สนามมาร์สตัน สเตเดียม [7] หลังจบลีกเวลส์ ฤดูกาล 2008–2009 มิก้าได้ย้ายกลับมาอยู่ประเทศไทยกับพ่อ

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด

หลังย้ายกลับมาอยู่ประเทศไทย ในช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2009 มิก้าได้ติดต่อขอทดสอบฝีเท้ากับสโมสรเมืองทองฯ ยูไนเต็ด และผลงานเป็นที่น่าพอใจจึงได้เซ็นสัญญาย้ายเข้ามาร่วมทีม ในช่วงเลกที่ 2 ของไทยพรีเมียร์ลีก 2009[8] โดยลงเล่นภายใต้การคุมทีมของอรรถพล บุษปาคม และลงสนามให้เมืองทองฯ นัดแรกวันที่ 26 กรกฎาคม ปี 2009 ในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีกนัดที่ออกไปแพ้สโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี 1–0 ที่สนามแพตสเตเดียม[9] ซึ่งการแข่งขันนัดดังกล่าวถือเป็นการลงเล่นในลีกอาชีพของไทยเป็นครั้งแรกของเขาอีกด้วย

โดยมิก้าที่ย้ายเข้ามาในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง ไม่สามารถแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีมได้ และได้ลงสนามในไทยพรีเมียร์ลีกไปเพียงแค่ 6 นัด (ลงเป็นตัวจริง 1 นัด และเป็นตัวสำรอง 5 นัด) โดยเมื่อจบฤดูกาลทีมสามารถคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2009ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกของสโมสร

สุวรรณภูมิ ศุลกากร

หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2010 เริ่มแข่งขันไปได้ไม่นาน วันที่ 9 เมษายน ปี 2010 มิก้า ชูนวลศรี ได้ย้ายจากเมืองทองฯ ยูไนเต็ด มาเล่นให้กับสโมสรสุวรรณภูมิ-ศุลกากร ในไทยลีกดิวิชั่น 1 ที่มี ฌูแซ การ์ลูส ฟีร์ไรรา โค้ชชาวบราซิลเป็นกุนซืออยู่ในขณะนั้น แบบไม่มีค่าตัว และได้เบอร์เสื้อหมายเลข 10 [10] หลังจากย้ายมาร่วมทีมได้เพียงแค่ 10 วัน โดยที่ยังไม่มีโอกาสได้ลงเล่น สโมสรก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนเป็นประภาส ฉ่ำรัศมี [11]

มิก้า ได้รับโอกาสลงสนามให้สโมสรเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 เมษายน ในการแข่งขันลีกดิวิชั่น 1 ที่เปิดบ้านแพ้ให้กับสมาคมกีฬาไทยฮอนด้า 0–1 ที่สนามกีฬาสโมสรศุลกากร (ลาดกระบัง 54) และยิงประตูแรกในลีกดิวิชั่น 1 ได้เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ในนัดที่เปิดบ้านเฉือนชนะสโมสรอาร์แบค เอฟซี 4–3 [12]โดยประตูดังกล่าวถือเป็นประตูแรกที่มิก้า ยิงได้ในลีกของประเทศไทย และมายิงในลีกได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 29 กันยายน ในนัดที่ถล่มสโมสรนราธิวาส เอฟซีไปถึง 7–0 ที่สนามกีฬาสโมสรศุลกากร [13]

การลงเล่นในดิวิชั่น 1 เขาสามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับ และเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้สโมสรมีลุ้นเลื่อนชั้น และคว้าอันดับ 7 ได้เมื่อจบฤดูกาล โดยมิก้า ลงสนามในฤดูกาลนี้ 24 นัด (ในลีกดิวิชั่น 1 23 นัด ,เอฟเอ คัพ 1 นัด) ยิงในลีกดิวิชั่น 1 ได้ 2 ประตู

บีอีซี เทโรศาสน

แม้มิก้าจะพาทีมศุลกากรเลื่อนชั้นไม่สำเร็จ แต่ด้วยผลงานที่โดดเด่นในระดับดิวิชั่น 1 ทำให้หลังจบฤดูกาล 2010 สโมสรบีอีซี เทโรศาสน เซ็นสัญญาคว้าตัวมิก้า ชูนวลศรี ไปร่วมทีมในเดือนตุลาคม [14] โดยลงเล่นภายใต้การคุมทีมของปีเตอร์ บัตเลอร์ โค้ชชาวอังกฤษ และได้รับเสื้อหมายเลข 16

มิก้า ชูนวลศรี ลงสนามนัดแรกให้บีอีซี เทโรศาสน ด้วยการลงเล่นเป็นตัวจริงในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก 2011 นัดที่บุกไปชนะสโมสรทีทีเอ็ม-เอฟซี พิจิตร 2–1 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดพิจิตร เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ [15]

ในฤดูกาล 2011นี้ มิก้าได้เปลี่ยนมาเล่นในตำแหน่งกองหลัง (แบ็คขวาและเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ) โดยเป็นผู้เล่นตัวหลักและลงสนามอย่างต่อเนื่อง จากนั้นในเดือนมิถุนายน 2011 สโมสรได้เปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนเป็นพยงค์ ขุนเณร [16] ซึ่งมิก้า ก็ยังรักษาตำแหน่งตัวจริงในทีมไว้ได้เช่นเดิม

วันที่ 3 ธันวาคม มิก้า ได้รับบาดเจ็บหนักที่เอ็นหัวเข่าจากการถูกประวีณวัช บุญยงค์เข้าสกัด ในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก นัดที่พบกับสโมสรบางกอกกล๊าส ที่ลีโอสเตเดียม[17] โดยต้องเข้ารับการผ่าตัดและพักยาวจนจบฤดูกาล

มิก้า ชูนวลศรี ลงสนามในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ 24 นัด และพาสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับ 7

บางกอก เอฟซี

เดือนมีนาคม ปี 2012 มิก้า ชูนวลศรี ย้ายมาเล่นในระดับดิวิชั่น 1 อีกครั้ง กับสโมสรบางกอก เอฟซี ที่มีทองสุข สัมปหังสิต เป็นผู้ฝึกสอนอยู่ในขณะนั้น โดยได้รับเสื้อหมายเลข 16 [18] หลังจากย้ายมาร่วมทีม มิก้า ซึ่งยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บที่ได้รับตั้งแต่สมัยเล่นให้บีอีซี เทโรศาสน ไม่สามารถลงช่วยทีมในช่วงแรกได้ [19]โดยมิก้า ชูนวลศรีได้ลงสนามในดิวิชั่น 1 ให้บางกอก เอฟซี เป็นนัดแรกเมื่อวันที่ 7 เมษายน ปี 2012 ในนัดที่เสมอกับสโมสรสงขลา เอฟซี ที่สนามศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ (บางมด) ไป 1–1 โดยเป็นตัวสำรองที่ถูกส่งลงมาในครึ่งหลัง [20]

หลังหายจากอาการบาดเจ็บ มิก้า เป็นผู้เล่นคนสำคัญในตำแหน่งกองหลัง และยิงประตูแรกให้บางกอก เอฟซี ได้เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ในการแข่งขันลีกดิวิชั่น 1 ที่เปิดบ้านแพ้ให้กับสโมสรนครราชสีมา เอฟซี 1–2 [21]

ถึงแม้เขาจะเป็นผู้เล่นตัวหลักแต่ผลงานของทีมในครึ่งฤดูกาลแรกกลับไม่ค่อยดีนัก โดยตกรอบ 64 ทีมสุดท้ายในถ้วยโตโยต้า ลีกคัพ 2012 ส่วนผลงานในลีกชนะเพียงแค่ 5 นัด จากการแข่งขัน 15 นัด ทำให้ทองสุข สัมปหังสิต ลาออกจากการเป็นผู้ฝึกสอน [22] และสโมสรได้แต่งตั้งให้เกียรติศักดิ์ เสนาเมืองเข้ามาทำหน้าที่แทน ในครึ่งฤดูกาลหลัง[23] แต่ก็ทำได้เพียงแค่จบฤดูกาลด้วยอันดับ 10 โดยมิก้า ชูนวลศรี ลงสนามในลีกดิวิชั่น 1 ฤดูกาลนี้ 29 นัด ยิงในลีก 1 ประตู

สุพรรณบุรี เอฟซี

หลังจบฤดูกาล 2012 มิก้า ชูนวลศรี ได้รับความสนใจจากทีมระดับไทยพรีเมียร์ลีกหลายทีม โดยในเดือนพฤศจิกายน ปี 2012 สโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี ได้ซื้อตัวมิก้ามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 2 ล้านบาท[24] ทำให้มิก้าได้เล่นในลีกสูงสุดอีกครั้งในไทยพรีเมียร์ลีก 2013 ได้รับเบอร์เสื้อหมายเลข 16 และลงเล่นภายใต้การคุมทีมของพยงค์ ขุนเณร โดยลงสนามให้สุพรรณบุรี เอฟซี นัดแรกเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ปี 2013 ในไทยพรีเมียร์ลีก ที่สุพรรณบุรี เสมอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1–1 ที่สนามนิวไอโมบายสเตเดียม

ในช่วงแรกมิก้าเป็นผู้เล่นตัวจริงของสโมสรด้วยตำแหน่งแบ็คขวา และลงสนามอย่างต่อเนื่องโดยเขาช่วยให้สโมสรที่เพิ่งเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาเล่นในไทยพรีเมียร์ลีก เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการไม้แพ้ทีมใดในลีกถึง 7 นัดติดต่อกัน โดยมิก้า ชูนวลศรี ทำประตูในลีกให้สุพรรณบุรี เอฟซี ได้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ปี 2013 จากการโหม่งลูกเตะมุม ทำให้ทีมบุกมาขึ้นนำสโมสรราชบุรี-มิตรผล เอฟซี 1–0 ก่อนจะจบลงด้วยผลเสมอ 1–1 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดราชบุรี[25]

แต่หลังจากนั้นเขากลับประสบปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณโคนขาหนีบ ที่เรื้อรังมากกว่า 2 เดือน ทำให้ไม่ได้ลงสนามมากนักในช่วงหลัง [26] และสูญเสียตำแหน่งตัวจริงในทีมให้กับ สุพจน์ วงษ์หอย ในเวลาต่อมา

มิก้า ชูนวลศรีลงสนามให้สุพรรณบุรีในฤดูกาล 2013 ทั้งหมด 18 นัด (ในไทยพรีเมียร์ลีก 17 นัด ลีกคัพ 1 นัด) และยิงในลีกได้ 1 ประตู โดยสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับ 4 อย่างเหนือความคาดหมาย

ในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014 สโมสรเปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนเป็น อเล็กซานเดอร์ มาโน โพลกิ้ง โค้ชชาวเยอรมัน-บราซิล และมิก้า ที่หายจากอาการบาดเจ็บก็กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง โดยลงเล่นเป็นตัวจริงในการแข่งขันนัดแรกของฤดูกาล ที่แพ้ในบ้านต่อสโมสรราชบุรี-มิตรผล เอฟซี ไป 1–2 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ [27]

มิก้า กลับมาเป็นตัวจริงของทีมอีกครั้งในยุคของ มาโน โพลกิ้ง แต่ผลงานในลีกของทีมกลับไม่ดีเท่าที่ควร ประกอบกับทีมตกรอบโตโยต้า ลีกคัพ 2014 ตั้งแต่รอบ 32 ทีมสุดท้าย ทำให้ มาโน โพลกิ้ง ถูกปลดในเดือนพฤษภาคม [28]

จากนั้น อเดบาโย กาเดโบ ผู้อำนวยการชาวไนจีเรียของสโมสรได้แถลงว่า มิก้า ชูนวลศรี ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมในเลกที่ 2 และพร้อมปล่อยตัวออกจากทีมเพื่อให้ย้ายไปร่วมทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด[29] โดยมิก้าลงสนามในเลกแรกของไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014 ให้สุพรรณบุรี 12 นัด

แบงค็อก ยูไนเต็ด

ในเดือนมิถุนายน ช่วงเลกที่ 2 ของไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014 มิก้า ย้ายมาร่วมทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่มี อเล็กซานเดอร์ มาโน โพลกิง ที่เคยร่วมงานกันที่สุพรรณบุรี เป็นกุนซือใหญ่ และได้เสื้อหมายเลข 16 [30] โดยมิก้า ชูนวลศรี ลงสนามให้แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นนัดแรกเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก ที่เอาชนะสโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด 3–0 ที่สนามศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) และมาทำประตูแรกให้สโมสรได้ในนัดต่อมาที่ออกไปเยือนสโมสรศรีสะเกษ เอฟซี วันที่ 29 มิถุนายน ที่สนามศรีนครลำดวน โดยมิก้าโหม่งลูกเตะมุมให้ทีมขึ้นนำ 1–0 ก่อนจะชนะไป 3–1

มิก้ามายิงในไทยพรีเมียร์ลีกได้อีกหนึ่งประตูในวันที่ 12 กรกฎาคม ที่บุกมาเอาชนะสโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี 3–0 ที่สนามแพตสเตเดียม โดยในเลกที่ 2 นี้ มิก้าเป็นผู้เล่นตัวหลักที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยลงสนามให้แบงค็อก ยูไนเต็ด 18 นัด (ไทยพรีเมียร์ลีก 17 นัด เอฟเอคัพ 1 นัด) ยิงในลีกได้ 2 ประตู และพาสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 8

ฤดูกาล 2015 มิก้า ยังคงเป็นผู้เล่นตัวจริงของสโมสร และยิงประตูในไทยพรีเมียร์ลีกได้ 1 ประตู จากลูกฟรีคิกในนัดที่ชนะสุพรรณบุรี เอฟซี 4–3 เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม [31] และถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทย ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย นัดที่พบกับทีมชาติไต้หวัน ในเดือนพฤศจิกายน โดยนับเป็นการถูกเรียกตัวติดทีมชาติในการแข่งขันอย่างเป็นทางการของฟีฟ่าเป็นครั้งแรก หลังจากเคยเล่นให้ทีมชาติไทยมาแล้วในรายการคิงส์คัพ

แหล่งที่มา

WikiPedia: มิก้า ชูนวลศรี http://www.ballthaifc.com/view_news.php?id=5530&le... http://thaileaguesoccer.blogspot.com/2012/06/12bet... http://news.ch3thailand.com/entertainment/99989 http://m.goal.com/s/th/news/3188307/ http://www.goal.com/th/news/4280/%E0%B8%9F%E0%B8%B... http://www.goal.com/th/news/4280/%E0%B8%9F%E0%B8%B... http://www.hugball.com/other-match-Ratchaburi-FC-v... http://sport.mthai.com/football-thai/2029.html http://sport.mthai.com/football-thai/2490.html http://www.neathfc.com/index.php?option=com_conten...